สำหรับสาวก Apple ที่ใช้ไอโฟน (iPhone) เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจจะประสบกับปัญหาต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องค้าง ชาร์จไฟไม่เข้า แบตเสื่อม เครื่องร้อน จอเบิร์น เป็นต้น ซึ่งก็ต้องวิ่งวุ่นหา ร้านซ่อม ไอโฟน (iPhone) แต่การจะหาร้านที่ดีและเชื่อถือได้นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเราเลือกร้านที่ไม่ได้คุณภาพ และไม่ได้ใช้อะไหล่แท้ ก็จะส่งผลกับการใช้งานของเครื่องในอนาคตได้ ทั้งยังอาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดลงอีกด้วย ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยควรเลือกร้านซ่อมที่ไว้ใจได้จะดีที่สุด
อาการเสียต่าง ๆ ของไอโฟนที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง |
อาการเสียของไอโฟน (iPhone) นั้นที่พบก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาการที่เกี่ยวกับแบต จอ ลำโพง กล้อง หรือแม้แต่เรื่องของการเชื่อมต่อ และซอฟแวร์ที่มีปัญหา จนทำให้ต้องนำไปแก้ไขยังร้านซ่อม ไอโฟน (iPhone) แต่ก่อนที่จะเอาไปซ่อมที่ร้านนั้น ลองมาแก้ปัญหาด้วยตัวเองกันก่อน และในบทความนี้เราจะมาแนะนำถึงการแก้ปัญหาเบื้องต้น ของอาการเสียของไอโฟนที่พบได้บ่อยที่สุด ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
อาการไอโฟน (iPhone)เครื่องค้าง ทำอย่างไร?
อาการที่ ไอโฟน (iPhone)ค้าง หรือจอทัชไม่ได้นั้น เป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดจากการที่เราใช้งานเครื่องหนักจนเกินไป แต่เราสามารถแก้อาการเบื้องต้นได้ง่าย ๆ คือ รีสตาร์ทเครื่อง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นที่ทำง่ายและได้ผล ซึ่งการที่หน้าจอค้างนั้น อาจเกิดจากการที่เราเปิดแอพพลิเคชั่นพร้อมกันมากจนเกินไปแล้วลืมปิดการใช้งาน ทำให้แอพยังทำงานอยู่จนหน่วยความจำ RAM ไม่พอ และเกิดอาการจอค้างตามมา เราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการรีสตาร์ทเครื่อง ซึ่งจะทำให้แอพต่าง ๆ ที่เราเปิดทิ้งไว้ถูกบังคับปิดไปจนหมด และไอโฟนของเราก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ
วิธีรีสตาร์ทเครื่อง
ในกรณีที่หน้าจอค้าง เราจะไม่สามารถรีสตาร์ทแบบปกติได้ จึงต้องบังคับเครื่องให้รีสตาร์ท ซึ่งไอโฟนแต่ละรุ่นก็จะมีวิธีต่างกันไป ดังนี้
-
-
- iPhone 2G – iPhone 6s ทำได้โดยกดปุ่ม Home และ Power พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาที่หน้าจอ
- iPhone 7 – iPhone 8 ทำได้โดยกดปุ่มเสียง และ Power พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาที่หน้าจอ
- iPhone X ทำได้โดยกดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้ง, กดปุ่มลดเสียง 1 ครั้ง และกดปุ่มด้านข้าง หรือ Power ค้างไว้
-
จนกว่าโลโก้ Apple จะแสดงขึ้นมาที่หน้าจอ
จากนั้นรอให้ระบบบูตตัวเองขึ้นมาใหม่ ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งการรีสตาร์ทเครื่องจะช่วยแก้ปัญหาเครื่องค้างได้ดี และเป็นการทำเองได้ในเบื้องต้นอีกด้วย แต่หากยังไม่หาย ก็อาจจะต้องลองใช้วิธีรีเซตการตั้งค่าทั้งหมดของเครื่อง หรือใช้การล้างเครื่อง แต่หากว่ายังไม่สามารถใช้งานได้ ก็คงต้องนำไปให้ร้านซ่อม ไอโฟนเช็คอาการดูอีกทีแล้วล่ะ
อาการไอโฟน (iPhone) แบตเสื่อม เกิดจากอะไร?
เป็นธรรมดาของโทรศัพท์มือถือ ที่เมื่อใช้งานไปนาน ๆ หลายปี ก็จะเริ่มมีอาการแบตเสื่อม แต่หากว่าเพิ่งใช้งานไปไม่นานหรือยังไม่ถึงปี แต่เริ่มรู้สึกว่าแบตหมดไวกว่าปกติ หรือแบตลดฮวบฮาบนั้น น่าจะเป็นอาการแบตเสื่อมเร็ว รวมถึงจะมีข้อความแจ้งเตือนว่า “ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของคุณลดลงอย่างเห็นได้ชัด…” ซึ่งหมายถึงว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว แต่ถ้าหากยังไม่ทำการเปลี่ยนก็จะไม่เป็นอันตรายต่อการใช้แต่อย่างใด เพียงแต่ประสิทธิภาพในการใช้งานจะลดลงนั่นเอง ซึ่งอาการแบตเสื่อมเร็วนั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง มีดังนี้
1. รอให้แบตขึ้นขีดแดงแล้วถึงชาร์จ
หลายคนที่มักจะใช้งานไอโฟนในลักษณะแบบนี้ นั่นก็คือปล่อยให้แบตเตอรี่ลดลงจนเหลือเลขตัวเดียว หรือเป็นขีดสีแดง ถึงจะทำการชาร์จ ซึ่งการทำแบบนี้บ่อย ๆ จะทำให้อายุของแบตนั้นสั้นลง หรือแบตเสื่อมได้เร็วยิ่งขึ้น ทางที่ดีแนะนำให้ชาร์จไอโฟนของคุณบ่อย ๆ จะดีกว่า และอย่ารอให้แบตใกล้หมดแล้วถึงชาร์จ ซึ่งการชาร์จบ่อย ๆ นั้นไม่เป็นผลเสียต่อโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด
2. ใช้อุปกรณ์การชาร์จที่ไม่มีคุณภาพ
การที่เราเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จของไอโฟน ทั้งอะแดปเตอร์ สายชาร์จ หรือแท่นชาร์จไร้สายก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ควรใช้อุปกรณ์แท้จาก Apple ที่ได้รับมาตรฐาน MFi จาก Apple ซึ่งแม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีราคาจะสูงกว่าอุปกรณ์ชาร์จทั่วไปในท้องตลาด แต่ก็คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เพราะใช้ได้นานและมีประสิทธิภาพสูง หรือหากอุปกรณ์ที่ใช้เริ่มเสื่อมสภาพ ก็ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันที
3. อุณหภูมิร้อนเกินไป
ความร้อนของอุณหภูมิเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว ซึ่งทาง Apple นั้นได้แนะนำให้เราใช้ไอโฟนอยู่ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 0-35 องศาเซลเซียล เพราะฉะนั้นควรระวังอย่าวางโทรศัพท์มือถือของเราไว้ที่คอนโซลรถในระหว่างขับรถ ในขณะที่แดดส่องถึงไอโฟนโดยตรง หรืออย่าเผลอลืมวางไว้กลางแจ้งที่แดดจัด หรือในตอนกลางวันที่อากาศร้อนและมีอุณหภูมิสูง เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้น ทั้งยังไม่ทำให้แบตเสื่อมเร็วอีกด้วย ทั้งนี้ หากมีการใช้งานไอโฟนจนเครื่องร้อนจัด ก็ควรพักเครื่องก่อนจะดีที่สุด
ข้อเเนะนำจากทางร้าน ที่ดีที่สุด
การที่เราใช้งานไอโฟนตลอดเวลา จนเครื่องไม่ได้พักเลยนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของการทำให้เครื่องเกิดอาการค้าง หรือแม้แต้แบตเตอรี่เสื่อมได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อเราใช้ไอโฟนไปสักระยะแล้ว ก็ควรพักเครื่อง และพักการใช้งานบ้าง อย่าใช้งานจนปล่อยให้เครื่องร้อน เพื่อเป็นการถนอมไอโฟนให้ใช้งานได้นานขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยถนอมแบตเตอรี่ไปในตัวอีกด้วย ซึ่งหากเครื่องมีปัญหาต่าง ๆ ข้างต้น ก็ลองแก้ปัญหาเบื้องต้นตามวิธีที่แนะนำไว้ เพราะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่เราสามารถทำได้เอง แต่หากแก้ไขแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้นำเครื่องไปให้ที่ร้านซ่อม ไอโฟนตรวจดูอาการอีกครั้ง เพราะอาจจะต้องเปลี่ยนแบตใหม่ เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงาน และความจุเต็มรูปแบบเช่นดังเดิมได้ และเพื่อที่จะได้หาสาเหตุที่แท้จริงและแก้ได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
รุ่นไอโฟน (iPhone) ที่พร้อมให้บริการซ่อม จากทางร้าน |
ไม่ว่าไอโฟนของคุณจะรุ่นอะไร ก็สามารถส่งมาซ่อมที่ร้านเราได้เลย
iPhone 11 Pro | iPhone 7 (PRODUCT) RED |
iPhone 11 Pro Max | iPhone 7 |
iPhone 11 | iPhone 7 Plus |
iPhone XR | iPhone SE |
iPhone XS | iPhone 6s Plus |
iPhone XS Max | iPhone 6s |
8 Plus (PRODUCT)RED | iPhone 6 Plus |
iPhone 8 | iPhone 6 |
iPhone 8 Plus | iPhone 5S |
iPhone X | iPhone 5C |
เขตพื้นที่ให้บริการของร้าน |
ไม่ว่าคุณจะอยู่เขตพื้นที่ไหน ก็สามารถส่งเครื่องไอโฟน (iPhone) ที่มีปัญหาของท่าน มาซ่อมที่ร้านของเราได้เลย
เขต พระนคร | ลาดกระบัง | เขต บางขุนเทียน | เขต บางคอแหลม | เขต หลักสี่ |
เขต ดุสิต | เขต ยานนาวา | เขต ภาษีเจริญ | เขต ประเวศ | เขต สายไหม |
เขต หนองจอก | เขต สัมพันธวงศ์ | เขต หนองแขม | เขต คลองเตย | เขต คันนายาว |
เขต บางรัก | เขต พญาไท | เขต ราษฎร์บูรณะ | เขต สวนหลวง | เขต สะพานสูง |
เขต บางเขน | เขต ธนบุรี | เขต บางพลัด | เขต จอมทอง | เขต วังทองหลาง |
เขต บางกะปิ | เขต บางกอกใหญ่ | เขต ดินแดง | เขต ดอนเมือง | เขต คลองสามวา |
เขต ปทุมวัน | เขต ห้วยขวาง | เขต บึงกุ่ม | เขต ราชเทวี | เขต บางนา |
เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย | เขต คลองสาน | เขต สาทร | เขต ลาดพร้าว | เขต ทวีวัฒนา |
เขต พระโขนง | เขต ตลิ่งชัน | เขต บางซื่อ | เขต วัฒนา | เขต ทุ่งครุ |
เขต มีนบุรี | เขต บางกอกน้อย | เขต จตุจักร | เขต บางแค | เขต บางบอน |
สามารถส่งซ่อม iPhone ได้ 2 ช่องทางดังต่อไปนี้
1.นำ iPhone ของคุณไปซ่อมที่ร้านเองเลย
ร้าน Tech Avenue Thailand มีอยู่ 2 สาขาได้แก่
สาขาที่ 1 ที่ ตึกฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 4 ห้อง 4R05 (ตรงข้าม เซ็นทรัล พระราม 9)
สาขาที่ 2 ที่ The PARQ (เดอะ ปาร์ค) ชั้น 1 Unit OP114 & OP115 (ถ.พระราม 4 ตัดกับ ถ.รัชดาภิเษก)
2.ส่งซ่อม iPhone ผ่านทางขนส่งต่าง ๆ
ส่งซ่อมโทรศัพท์มือถือของคุณ ผ่านช่องทางขนส่ง ที่มีบริการรับของถึงหน้าบ้านของคุณเลยไม่ว่าจะเป็น- LINE MAN
- Grab
- Lalamove
- Kerry
- Flash Expres
ขั้นตอนส่งซ่อม iPhone ง่าย ๆ มีดังต่อไปนี้
- โทรเบอร์ติดต่อ เล่าอาการเสียของโทรศัพท์ ได้ที่เบอร์นี้ได้เลย 097 249 6429
- ทางร้านจะแจ้งราคาโดยประมาณ ให้เราทราบเพื่อให้เราตัดสินใจก่อนส่งซ่อม
- เมื่อตกลงที่จะส่งซ่อมกันแล้ว ทางร้านจะแจ้งที่อยู่ให้เรา
- เราก็สามารถ ใช้บริการ แอพต่าง ๆ เรียกให้มารับโทรศัพท์ของเราไปซ่อมได้ทันที
- หลังจากซ่อมเสร็จ ทางร้านจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ แล้วหลังจากชำระค่าบริการเสร็จ
- ทางร้านจะส่งเครื่องกลับมาให้คุณได้ทันที
สำหรับใครที่ไม่สะดวกจดที่อยู่ สามารถใช้ที่อยู่ตามด้านล่างนี้ได้เลย
ส่งถึง ร้าน Tech Avenue
ตึกฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 4 ห้อง 4R05 ถนนรัชดาภิเษก
เบอร์ติดต่อ 097 249 6429 เปิดบริการ 10:00-20:00 น.
Line ID : @TechFix